คาร์ซีทแบบ Safety Belt และ ISOFIX ต่างกันอย่างไร

คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อคาร์ซีทแบบไหน

           คาร์ซีท (Car seat) หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กเพื่อการเดินทางอย่างปลอดภัยในรถยนตร์ สำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด -12 ปี เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรก ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการจะพาลูกน้อยเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยและช่วยป้องกันอันตรายต่าง ๆ จากอุบัติเหตุไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวลูกน้อยของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการกระแทก การชน หรือการเบรกรถอย่างกะทันหัน เพื่อช่วยเหนี่ยวรั้งตัวของลูกน้อยเอาไว้ไม่ให้กระเด็นไปกระแทกกับตัวรถ หรือในกรณีที่เลวร้ายกว่านั้นคือการกระเด็นออกนอกตัวรถซึ่งอาจสูญเสียถึงขั้นเสียชีวิตได้

           ในปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับคาร์ซีทเด็กมีขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นในส่วนของวัสดุและเทคโนโลยีสำหรับการผลิตและออกแบบคาร์ซีทและรถเข็นเด็ก รวมไปถึงระบบสำหรับการติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อช่วยสนับสนุนในด้านของมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานให้กับคาร์ซีทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วันนี้ Britax จะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ 2 เทคโนโลยีสำหรับการติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ส่วนบุคคลที่สามารถทำได้ง่าย อีกทั้งยังมีความแข็งแรงและแน่นหนาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยของคุณให้ได้มากที่สุด

 การติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ Safety Belt 

           การติดตั้งคาร์ซีทเด็กด้วยระบบ Safety Belt เช่น ระบบ ClickTight Installation System เป็นระบบที่มีการคิดค้น ออกแบบ และได้รับการจดสิทธิบัตรโดยเฉพาะในคาร์ซีทแบรนด์ Britaxเพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ทุกท่านสามารถทำการติดตั้งคาร์ซีทได้อย่างง่ายดายด้วยตนเองและแน่นหนาเพื่อความปลอดภัยที่มากที่สุดสำหรับลูกน้อย โดยเป้าหมายสำคัญของระบบ ClickTight นั้นจะเน้นไปที่การทำให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านนั้นรู้สึกว่าการติดตั้งคาร์ซีทสามารถทำได้ง่ายเหมือนกับการคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่าตนเองจะสามารถติดตั้งให้กับลูกน้อยได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยอย่างแน่นอน

           สำหรับระบบการติดตั้งคาร์ซีทเด็กด้วย Safety Belt หรือการติดตั้งด้วยระบบ ClickTight นั้น มีการออกแบบเพื่อให้มีระบบปรับความตึงที่สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาด พร้อมด้วยกลไกการล็อกที่สามารถปรับความตึงและล็อกเข็มขัดนิรภัยได้ในเวลาเดียวกัน จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านสามารถทำการติดตั้งคาร์ซีทเด็กได้อย่างสะดวกรวดเร็วใน 3 ขั้นตอน ดังนี้

  1. สำหรับการติดตั้งคาร์ซีทเด็กแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ ลำดับแรกควรปรับระดับคาร์ซีทให้อยู่ในองศาที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ จากนั้นให้นำคาร์ซีทมาวางไว้บนเบาะรถยนต์ที่ต้องการจะทำการติดตั้ง
  2. กดปุ่ม CLICKTIGHT เพื่อทำการหมุนเปิดเบาะออก (หากไม่สามารถหมุนได้ให้ใช้มืออีกข้างกดที่ตัวเบาะเพื่อเป็นตัวช่วย)
  3. นำสายเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์คาดผ่านช่องสำหรับใช้คาดเข็มขัดนิรภัยบนตัวคาร์ซีท ก่อนจะนำเข็มขัดนิรภัยไปเสียบเข้ากับตัวล็อกเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ จากนั้นทำการปรับสายเข็มขัดนิรภัยให้แน่น แล้วตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะทำการปิดเบาะคาร์ซีท

 ทำไมต้องติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ Safety Belt 

           ปกติรถยนต์ทั่วไปจะมีระบบ Safety Belt ของรถยนต์เพื่อยึดรัดตัวผู้ขับขี่รถยนต์และผู้โดยสารทั่วไปที่เป็นผู้ใหญ่ขณะขับขี่และขณะเดินทางในรถยนต์เพื่อป้องกันหรือความรุนแรงจากการบาดเจ็บกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุ

           หากรถยนต์ไม่มีระบบการติดตั้งคาร์ซีทระบบอื่นโดยเฉพาะ เช่นระบบ ISOFIX คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองเด็กจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกคาร์ซีทที่สามารถติดตั้งกับรถยนต์ที่มีเฉพาะระบบSafety Beltของรถยนต์เท่านั้น

           ปัจจุบัน Britax ในยุโรปโดยเฉพาะโรงงานของ Britax ในประเทศเยอรมันนี ได้พัฒนาระบบการติดตั้งด้วยSafety Belt ของรถยนต์ที่ทำให้การติดตั้งด้วย SafetyBelt รถยนต์สามารถติดตั้งด้วยตนเองอย่างง่ายดาย อีกทั้งให้ผลลัพธ์การติดตั้งที่แนบแน่นกับเบาะรถยนต์เป็นอย่างดี เช่น คาร์ซีทรุ่น KING II LS และ KING II ATS

           สำหรับ Britaxในสหรัฐอเมริกา พัฒนาระบบการติดตั้งคาร์ซีทกับรถยนต์ที่มีเฉพาะระบบSafety Belt ที่เรียกชื่อเฉพาะว่าระบบ CLICK & TIGHT ซึ่งสามารถติดตั้งด้วยตนเองอย่างง่ายดาย อีกทั้งให้ผลลัพธ์การติดตั้งที่แนบแน่นกับเบาะรถยนต์เป็นอย่างดี โดยใช้พื้นฐานความรู้ที่พัฒนาต่อยอดมาจากยุโรปเช่นเดียวกัน เช่นคาร์ซีทรุ่น ADVOCATE CLICKTIGHTและอีกหลายๆ รุ่น ให้สามารถรองรับตามพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย

สอบถามข้อมูล

 การติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ ISOFIX 

           การติดตั้งคาร์ซีทเด็กด้วยระบบ ISOFIX ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการติดตั้งคาร์ซีทที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดความยุ่งยากและขั้นตอนที่ซับซ้อนในการติดตั้งคาร์ซีทให้กับคุณพ่อและคุณแม่ทุกท่าน รวมถึงการช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการติดตั้งคาร์ซีทอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้คาร์ซีทเด็กอาจติดตั้งไม่ถูกต้องสมบูรณ์ ส่งผลให้ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กหากมีอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

           ในยุโรปรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีการผลิตขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 2006 เป็นต้นไปนั้น ได้ถูกกำหนดให้รถยนต์ทุกคันจะต้องมีการติดตั้งจุดยึด ISOFIX ซึ่งเป็นแถบโลหะที่มีการติดตั้งที่ฐานของเบาะนั่งในรถยนต์บริเวณที่เบาะด้านบนและด้านล่างมาบรรจบกัน เพื่อให้สามารถรองรับกับการติดตั้งคาร์ซีท ISOFIX ในรถยนต์ได้ตามมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับคาร์ซีทโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้เข็มขัดนิรภัยหรือ Safety Belt ในการยึดคาร์ซีทกับเบาะนั่งในรถยนต์เช่นเดิม สำหรับรถยนต์ในประเทศไทยที่มีระบบสำหรับการติดตั้งคาร์ซีท ISOFIX นั้นมีด้วยกันมากมายหลายรุ่น ได้แก่ Toyota (Camry 2015, Altis, Prius, Alphard, Vellfireฯลฯ), Honda (CRV2015, Accord, Civic,ฯลฯ), Nissan (Teana, X-Trail,ฯลฯ), Mazda (CX5, Mazda 3, Mazda 2), Subaru XV, Isuzu MuiX, Lexus, Mercedes Benz, BMW, Porsche, Audi เป็นต้น

โดยการติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ ISOFIX สามารถทำได้อย่างสะดวกง่ายดายมากขึ้นเพื่อนำมาซึ่งความปลอดภัยที่มากที่สุดสำหรับลูกน้อย ใน 3 ขั้นตอน ดังนี้

  1. ดึงฐานเหล็กออกจากบริเวณใต้คาร์ซีท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการติดตั้งกับจุดยึด ISOFIX ในเบาะรถยนต์
  2. นำคาร์ซีทมาวางไว้บนเบาะรถยนต์ในตำแหน่งที่ต้องการจะทำการติดตั้ง ก่อนจะทำการดันฐานเหล็กเข้าไปในแนวตรงเพื่อทำการล็อกกับฐาน ISOFIX จนได้ยินเสียงคลิ๊ก
  3. ตรวจเช็กดูความเรียบร้อยของคาร์ซีทอีกครั้ง หากมีการติดตั้งอย่างถูกต้องสัญลักษณ์ ISOFIX จะกลายเป็นสีเขียว

 ทำไมต้องติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ ISOFIX 

          การติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ ISOFIX เป็นการยกระดับมาตรฐานในด้านความปลอดภัยของลูกน้อยให้เพิ่มมากขึ้นด้วยมาตรฐานที่ได้รับการรับรองในระดับสากล และได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากคาร์ซีท ISOFIX สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดตั้งคาร์ซีทแบบผิดวิธีได้มากถึง 96% อ้างอิงจากผลการสำรวจของ German Insurance Institute (GDV) ซึ่งช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่าลูกน้อยของคุณจะได้รับความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝันได้อย่างแน่นอน

 ควรเลือกติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ Safety Belt หรือ ISOFIX 

          สำหรับคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ที่ต้องการจะเลือกติดตั้งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยนั้นสามารถเลือกใช้งานระบบติดตั้งคาร์ซีทเด็กทั้งแบบระบบ Safety Belt (ClickTight) และระบบ ISOFIX ได้ตามลักษณะของรถยนต์และตามความต้องการ เพราะถึงแม้ว่าระบบติดตั้งคาร์ซีททั้ง 2 รูปแบบจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของรูปแบบและวิธีการที่ใช้สำหรับติดตั้งคาร์ซีท แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการออกแบบคาร์ซีทสำหรับระบบ ClickTight และ ISOFIX คือความปลอดภัยแน่นหนา และความสะดวกในการติดตั้ง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองทุกท่านสามารถติดตั้งคาร์ซีทเด็กได้อย่างถูกวิธี เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีติดตั้งคาร์ซีทอย่างไม่ถูกวิธีได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

          โดย Britax คือบริษัทผู้ผลิตคาร์ซีทจากประเทศเยอรมันที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง ECE R44 และ ECE R129 หรือ i-Size และระบบ ISOFIX รายแรกของโลกอีกทั้งยังได้รางวัลการันตีความปลอดภัยอีกมากมายจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรมรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัยในรูปแบบของแผ่นรองพิเศษที่ช่วยกระจายแรกกระแทกและให้การป้องกันเพิ่มเติมสำหรับคอของเด็กในการชนด้านหน้าอย่าง⠀XP-PAD ร่วมกับ SecureGuard ที่ช่วยลดแรงที่จะกระแทกท้องในกรณีที่เกิดการชนด้านหน้าได้มากถึง 35% (ลิขสิทธิ์ความปลอดภัย ที่มีเฉพาะในคาร์ซีท Britax เท่านั้น) และที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยคาร์ซีท และ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britaxจะผ่านการทดสอบความปลอดภัยสำหรับเด็กในรถยนต์ และเพื่อให้ได้คะแนนระดับห้าดาวเต็มพร้อมการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายอย่างมั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการของเราเป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้าถึง 2ปี ในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที

Car seat | Stroller | Booster Seat | คาร์ซีท | รถเข็นเด็ก | บูสเตอร์ซีท
คาร์ซีทแรกเกิด  l  คาร์ซีทเด็กเล็ก  l  คาร์ซีทเด็กโต (Booster Seat) 

สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ

Call center: 02 538 6700

Call center: 084 388 3887

Email : Info@BritaxThailand.com

line: @britaxthailand