เทคนิคดี ๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีท

เทคนิคดี ๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีท

เลือกคาร์ซีทอย่างไรให้ปลอดภัยและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

       เพราะความสำคัญของคาร์ซีท (Car Seat) หรือเบาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก คือ การช่วยให้เด็ก ๆ ที่นั่งอยู่บนเบาะคาร์ซีทได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการกระแทก การชน หรือการเบรกรถอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ ในปัจจุบันนี้คาร์ซีทเด็กจึงถือเป็นหนึ่งในไอเทมสำคัญที่คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ทุกคนจำเป็นจะต้องมีติดรถยนต์ส่วนบุคคลของตัวเองเอาไว้ เพื่อการช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ตั้งแต่ในวัยแรกเกิดที่ต้องเดินทางออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน ไปจนกว่าจะถึงวัยที่ลูกน้อยเติบโตพอที่จะนั่งและใช้งานสายรัดนิรภัยบนรถยนต์ได้อย่างเหมาะสม

       แต่ท่ามกลางคาร์ซีทมากมายที่วางจำหน่ายอยู่บนท้องตลาดนั้น คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนที่ต้องการจะเลือกซื้อคาร์ซีทมาใช้งานเป็นครั้งแรก อาจเกิดความรู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อยเลยว่า ตนเองควรเลือกใช้งานคาร์ซีทแบบไหน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทั้งในด้านของความสะดวกสบายในการใช้งานและการติดตั้ง รวมไปถึงในด้านของการช่วยป้องกันอันตราย และลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ให้กับลูกน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้เราจึงมีเทคนิคดี ๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีทเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณมาฝากค่ะ

 

เลือกรูปแบบคาร์ซีทให้เหมาะกับช่วงวัยและน้ำหนักตัวของลูกน้อย

       เพราะเด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัยนั้นต้องการที่จะได้รับการปกป้องและการดูแลในรูปแบบที่แตกต่างกัน ส่งผลให้คาร์ซีท (Car Seat) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานร่วมกับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ จึงจำเป็นที่จะต้องมีรูปแบบและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถนั่งหรือนอนอยู่บนคาร์ซีทเด็กได้ในตำแหน่งที่เหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง และเพื่อช่วยให้คาร์ซีทสามารถทำหน้าที่ในการปกป้องเด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วประเภทของคาร์ซีทเด็กจะสามารถแบ่งตามช่วงอายุและน้ำหนักตัวของเด็ก ๆ ได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่

 

  • คาร์ซีทกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด (Baby Car Seat) เหมาะสำหรับทารกวัยแรกเกิด จนถึงวัย 15 เดือน หรือทารกที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 15.9 กิโลกรัม และมีส่วนสูงตั้งแต่ 40 - 83 เซนติเมตร

 

  • คาร์ซีทเด็กเล็ก (Toddler Car Seat) เหมาะสำหรับเด็กเล็กที่มีอายุตั้งแต่ 9 เดือน ไปจนถึง 4 ปี หรือเด็กเล็กที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 9 - 18 กิโลกรัม และมีส่วนสูงตั้งแต่ 61 - 105 เซนติเมตร

 

       

       เพราะฉะนั้นแล้ว การเลือกรูปแบบคาร์ซีทให้เหมาะกับช่วงวัยและน้ำหนักตัวของลูกน้อยจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนทุกครั้ง และหากพบว่าลูกน้อยมีอายุ น้ำหนัก หรือว่าส่วนสูง ที่มากเกินกว่าที่มาตรฐานการใช้งานคาร์ซีทสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัยได้กำหนดเอาไว้ ก็ควรทำการเลือกซื้อคาร์ซีทตัวใหม่ให้กับลูกน้อยในทันที เพื่อช่วยให้ลูกน้อยได้รับการปกป้องดูแลอย่างปลอดภัยและดีที่สุดในทุกช่วงวัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝัน

 

   

เลือกคาร์ซีทที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล

       เพราะจุดประสงค์หลักของการใช้งานคาร์ซีทเด็ก (Car Seat) คือ การช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ในทุกช่วงวัยในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ส่งผลให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้งานคาร์ซีทที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล เพราะการได้รับมาตรฐานเหล่านี้ถือเป็นเครื่องการันตีชั้นดีว่า คาร์ซีทเด็กที่คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนได้ทำการเลือกซื้อมาให้ลูกน้อยใช้งานนั้น เป็นคาร์ซีทที่ถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาด้วยวัสดุที่ได้มาตรฐาน รวมถึงยังมีระบบการติดตั้งและการใช้งานที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์เท่านั้น แต่คาร์ซีทเด็กเหล่านี้ยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ลูกน้อยได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงจนอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นการกระแทก การชน หรือการเบรกรถอย่างกะทันหัน

       โดยสำหรับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และควรจะมีในคาร์ซีทเด็กที่มีการผลิตขึ้นมาอย่างได้คุณภาพนั้น คือ มาตรฐาน ECE R44/04 Child Restraint Systems และ มาตรฐาน ECE R129 หรือ i-Size ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่ได้มีการกำหนดขึ้นเพื่อใช้ในการทดสอบความปลอดภัย และความสามารถของคาร์ซีทในการปกป้องทารกแรกเกิด เด็กเล็ก และเด็กโต ที่นั่งอยู่บนคาร์ซีท ผ่านวิธีการทดสอบด้วยการชนจากด้านหน้า การชนจากด้านหลัง การชนจากด้านข้าง และการทดสอบชนแบบรถพลิกคว่ำหลายตลบ (Rollover Test) ร่วมกับการใช้หุ่นจำลองการชนในการวัดระดับแรงกระแทก เพื่อให้สามารถประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเด็กในระหว่างที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุได้อย่างชัดเจนและแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยที่มากที่สุดของเด็ก ๆ ที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทเด็กในระหว่างการเดินทางทุกคน

 

เลือกนวัตกรรมความปลอดภัยของคาร์ซีท ที่สามารถช่วยป้องกันและช่วยลดความรุนแรงในการบาดเจ็บ หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

       นอกเหนือไปจากการเลือกคาร์ซีท (Car Seat) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากลแล้วนั้น การเลือกคาร์ซีทที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยที่ทันสมัย และสามารถช่วยป้องกันและช่วยลดความรุนแรงในการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วระบบความปลอดภัยของคาร์ซีทเด็กนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของคาร์ซีทเด็กในแต่ละช่วงวัย ดังนี้

  • นวัตกรรมความปลอดภัยของคาร์ซีทกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด

           ช่วงวัยแรกเกิดนั้นถือได้ว่าเป็นช่วงวัยที่จำเป็นจะต้องได้รับการดูแล และการปกป้องที่เหมาะสมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณศีรษะและลำคอ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดที่มีความบอบบางมากที่สุดสำหรับเด็กในช่วงวัยนี้ ส่งผลให้คาร์ซีทเด็กแรกเกิดจำเป็นที่จะต้องมีการออกแบบนวัตกรรมความปลอดภัยแบบพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี V-shaped Headrest จาก Britax ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการออกแบบเบาะที่นั่งรองหลังของคาร์ซีทเด็กให้เป็นลักษณะตัว V ซึ่งจะทำให้ตัวเบาะสามารถช่วยบังคับให้ศีรษะของเด็ก ๆ วางอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อการนั่งบนเบาะที่นั่งคาร์ซีทได้อย่างสะดวกสบายและสามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบข้างได้ตลอดการเดินทาง อีกทั้งเบาะรูปทรงตัว V ยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการลดการเคลื่อนไหว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดแรงกระแทกที่อาจจะเกิดขึ้นกับศีรษะที่มีความบอบบางของทารกวัยในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุได้

    และอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำหรับคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดจาก Britax ที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ เทคโนโลยี SICT (Side Impact Cushion Technology) ซึ่งถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการลดแรงกระแทกในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุจากการชนหรือการกระแทกจากบริเวณด้านข้างของตัวรถ เพื่อการช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บที่รุนแรงที่บริเวณศีรษะและลำตัวของทารกวัยแรกเกิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • นวัตกรรมความปลอดภัยของคาร์ซีทเด็กเล็ก

           แม้ว่าสรีระร่างกายของเด็กเล็กจะมีการเติบโตและพัฒนาขึ้นจนมีความแข็งแรงมากกว่าในช่วงวัยแรกเกิด แต่เด็กเล็กก็ยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุดเมื่อนั่งอยู่บนคาร์ซีทเด็ก (Car Seat) เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงหากมีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ซึ่งนวัตกรรมความปลอดภัยที่เป็นที่นิยมและจำเป็นจะต้องมีในคาร์ซีทเด็กเล็ก คือ เทคโนโลยี 5-point harness with chest Pad หรือ สายรัดนิรภัยแบบ 5 จุด ซึ่งถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุดที่จะช่วยยึดตัวเด็กเอาไว้กับเบาะที่นั่งของคาร์ซีท เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เด็กกระเด็นออกไปนอกตัวรถยนต์ในกรณีที่รถยนต์เกิดการกระแทกจนนำไปสู่การพลิกคว่ำ เพื่อการช่วยปกป้องให้เด็ก ๆ ปลอดภัย รวมถึงช่วยลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้

    รวมไปถึงเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะสำหรับคาร์ซีทของ Britax อย่างเทคโนโลยี Patented Britax Römer Pivot Link ISOFIX System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยในการปกป้อง รวมถึงช่วยลดโอกาส และความรุนแรงในการได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะและลำคอจากแรงกระทำที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการชนหรือการกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

  • นวัตกรรมความปลอดภัยของคาร์ซีทเด็กโตหรือ บูสเตอร์ซีท (Booster Seat)

           เมื่อเด็ก ๆ เติบโตขึ้น นวัตกรรมความปลอดภัยของคาร์ซีทเด็กก็จำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัย และช่วยป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ให้กับเด็ก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี SecureGuard ของ Britax ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อการช่วยเพิ่มจุดความปลอดภัยจุดที่ 4 ลงบนเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยลดแรงกระแทก และช่วยปกป้องบริเวณหน้าท้องของเด็กที่ยังคงมีความบอบบางมากกว่าผู้ใหญ่ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเทคโนโลยี Patented XP-PAD ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบริเวณหน้าอกของเด็ก ๆ จากแรงชนหรือแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


โดย Britax คือ บริษัทผู้ผลิตคาร์ซีท (Car Seat) จากเยอรมันที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง ECE R44 และ ECE R129 หรือ i-Size และระบบคาร์ซีท ISOFIX รายแรกของโลก อีกทั้งยังได้รางวัลการันตีความปลอดภัยอีกมากมายจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรมรถยนต์ และที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่า ลูกค้าทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถไว้วางใจในคุณภาพและความสบายของลูกน้อยในระหว่างการใช้งานคาร์ซีท และ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britax ได้เป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้าถึง 24 เดือนในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที


สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ

Call center : 084 388 3887

Email : Info@BritaxThailand.com

Line : @BritaxThailand

เทคนิคดีๆในการเลือกซื้อคาร์ซีท
Visitors: 736,702