เตรียมตัวให้พร้อมก่อนกฎหมายคาร์ซีทเริ่มบังคับ

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนกฎหมายคาร์ซีทเริ่มบังคับ

วิธีการเลือกใช้งานคาร์ซีทให้พร้อมรับกับกฎหมายคาร์ซีท (Car Seat) ในประเทศไทย

กฎหมายคาร์ซีท

      เชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองหลาย ๆ คนที่กำลังจะมีลูกน้อย หรือมีลูกน้อยอยู่ในช่วงวัยทารก ช่วงวัยหัดเดิน หรือช่วงวัยประถม คงจะเคยได้ยินเรื่องราวของกฎหมายคาร์ซีท (Car Seat) ในประเทศไทยผ่านหูกันมาบ้างแล้วว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ประเทศไทยของเราได้มีการเผยแพร่ พ.ร.บ. การจราจรทางบก ฉบับที่ 13 พ.ศ.2565 ว่าด้วยเรื่องของการบังคับใช้งานคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและคาร์ซีทเด็กโตในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร เมื่อมีการเดินทางด้วยรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล

      โดยรายละเอียดต่าง ๆ ของกฎหมายคาร์ซีทจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้ทาง Britax Thailand ก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและคาร์ซีทเด็กโตมาให้คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกท่านได้ลองมาศึกษาและทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน เพื่อการเตรียมตัวและเตรียมคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้พร้อมก่อนกฎหมายคาร์ซีทเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายนนี้เป็นต้นไป


รายละเอียดของกฎหมายคาร์ซีท (Car Seat) ในประเทศไทย

สำหรับการบังคับใช้กฎหมายคาร์ซีท (Car Seat)  ในประเทศไทยมีรายละเอียดและสาระสำคัญตามพระราชบัญญัติ การจราจรทางบก ฉบับที่ 13 พ.ศ.2565 ดังนี้

(ข) คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่พิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

(ค) คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด

ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารมีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามวรรค 1 แต่บุคคลนั้นต้องมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายตาม (2) (ข) และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุตามที่บัญญัติไว้ในมาตรานี้ ให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด

ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 123 วรรค 1 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท


การบังคับใช้คาร์ซีท (Car Seat) ตามกฎหมายคาร์ซีทในประเทศไทย

      ในปัจจุบันนี้ ประเทศทางแถบตะวันตกอย่าง สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สเปน สหรัฐอเมริกา แคนาดา ตลอดจนประเทศทางแถบเอเชียอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น ล้วนแล้วแต่มีการออกกฎหมายเพื่อการบังคับใช้งานคาร์ซีท ทั้งคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและคาร์ซีทเด็กโตมาอย่างช้านาน ซึ่งหากลองนำมาเปรียบเทียบกับกฎหมายคาร์ซีทในไทยแล้วนั้นจะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้วรายละเอียดและสาระสำคัญตามพระราชบัญญัติ การจราจรทางบก ฉบับที่ 13 พ.ศ.2565 ไม่ได้มีการบังคับอย่างชัดเจนว่าคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกคนจำเป็นที่จะต้องทำการจัดเตรียมคาร์ซีทเด็กแรกเกิดหรือคาร์ซีทเด็กโตมาให้กับลูกน้อยของตนเองได้ใช้งาน ในขณะที่กำลังเดินทางด้วยรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะนอกจากการเลือกติดตั้งและใช้งานคาร์ซีทแล้วนั้นคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกคนยังสามารถเลือกใช้วิธีการอื่น ๆ ในการป้องกันอันตรายให้กับลูกน้อยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การจัดหาเบาะที่นั่งเสริมพิเศษเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถใช้งานเข็มขัดนิรภัยที่มีการติดตั้งมาภายในรถยนต์ได้ เป็นต้น


ความจำเป็นในการเลือกใช้งานคาร์ซีท (Car Seat

      ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนี้ คาร์ซีทประเภทต่าง ๆ ทั้งคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและคาร์ซีทเด็กโตที่ได้คุณภาพและได้มาตรฐาน ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดนั้นล้วนมีราคาเริ่มต้นที่สูงถึงเกือบ ๆ สองพันบาทไปจนถึงหลักหลายหมื่นบาท ซึ่งปัจจัยในเรื่องของราคาคาร์ซีทที่ค่อนข้างสูงนี้เองก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองหลาย ๆ คนเลือกที่จะมองหาวิธีการช่วยเสริมความปลอดภัยและป้องกันอันตรายให้กับลูกน้อยของตนเองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในรูปแบบอื่น ๆ ที่มีราคาที่ย่อมเยากว่าการเลือกซื้อคาร์ซีทมาใช้งาน

      แต่อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาและการวิจัยในหลากหลายสถาบันก็ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า การเลือกใช้งานคาร์ซีท (Car Seat) หรือเบาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กทั้งในรูปแบบคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและคาร์ซีทเด็กโต ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับกับสรีระร่างกายของเด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัยที่แตกต่างกันออกไปได้อย่างเหมาะสมโดยเฉพาะ ถือได้ว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่จะสามารถช่วยลดความรุนแรงในการได้รับบาดเจ็บในขณะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ และช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตของเด็ก ๆ ทุกคนที่นั่งอยู่บนเบาะที่นั่งคาร์ซีทในระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลการศึกษาจาก US Centers for Disease Control นั้นได้ระบุว่า การใช้งานคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและเด็กโตสามารถช่วยลดความเสี่ยงของเด็ก ๆ ในการได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้มากถึง 71-82% เลยทีเดียว 


วิธีการเลือกใช้งานคาร์ซีทให้พร้อมรับกับกฎหมายคาร์ซีท (Car Seat) ในประเทศไทย

      อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกคนก็คงจะพอมองเห็นภาพแล้วว่าการเลือกใช้งานคาร์ซีท (Car Seat) นั้นมีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นแล้วในวันนี้ Britax Thailand จึงอยากจะขอมาแนะนำเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคนสามารถเลือกซื้อคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและคาร์ซีทเด็กโตมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากที่สุดของเด็ก ๆ ทุกคน ดังนี้

  1. เลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกับช่วงวัยและขนาดตัวของลูกน้อย
          คาร์ซีทเด็ก (Car Seat) ทุกตัวเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาให้มีรูปแบบและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีความเหมาะสมกับอายุ ส่วนสูง และน้ำหนักตัวที่แตกต่างกันออกไปของเด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัย เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อให้เด็ก ๆ ทุกคนสามารถนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งคาร์ซีทได้อย่างสบายตัวตลอดการเดินทาง รวมถึงได้รับการปกป้องในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณพ่อคุณแม่ทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องทำการเลือกซื้อคาร์ซีทให้มีความเหมาะสมกับอายุ ส่วนสูง และน้ำหนักตัวของเด็ก ๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ และควรเลือกทำการเปลี่ยนคาร์ซีททันทีเมื่อพบว่าเด็ก ๆ มีขนาดตัวที่โตเกินกว่าที่จะสามารถนั่งอยู่บนเบาะคาร์ซีทตัวเดิมได้อย่างพอดีตัวอีกต่อไป

  2. เลือกใช้งานคาร์ซีท (Car Seat) ที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล
          มาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานคาร์ซีท (Car Seat)  คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่า คาร์ซีทเด็กแรกเกิดและคาร์ซีทเด็กโตที่ตนเองได้ทำการเลือกซื้อมานั้นสามารถช่วยปกป้องลูกน้อยของตนเองในขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อย่างปลอดภัยอย่างแท้จริง เนื่องจากคาร์ซีทที่จะได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากลทุกตัวล้วนต้องผ่านกระบวนการทดสอบความปลอดภัยจากการจำลองการชนในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย รวมถึงยังต้องมีการออกแบบดีไซน์ระบบการติดตั้งคาร์ซีทที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายดายเพื่อช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนสามารถทำการติดตั้งคาร์ซีทเด็กแรกเกิดและเด็กโตเพื่อการใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยนั่นเอง

  3. เลือกเทคโนโลยีความปลอดภัยในคาร์ซีท (Car Seat)  ที่ครอบคลุม 
          ถ้าหากคาร์ซีทคือเกราะป้องกันที่จะสามารถช่วยให้เด็ก ๆ ทุกคนได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นการปะทะ การชน หรือการพลิกคว่ำที่ไม่คาดฝัน เทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีอยู่ในเบาะที่นั่งคาร์ซีทก็เปรียบได้กับเกราะป้องกันเสริมที่จะช่วยทำให้เด็ก ๆ ทุกคนได้รับการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจนนำไปสู่การบาดเจ็บและการเสียชีวิตที่ลดลง เพราะฉะนั้นแล้วในการเลือกซื้อคาร์ซีทมาใช้งานคุณพ่อและคุณแม่ทุกคนจึงไม่เพียงแต่จะต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นพื้นฐานในคาร์ซีท ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีสายรัดนิรภัย 5 จุด (5-point harness) หรือเทคโนโลยีการปรับเอนนอนราบที่มีอยู่ในคาร์ซีทเด็กแรกเกิดทุกตัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


          แต่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนยังจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ถูกติดตั้งเสริมเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อประโยชน์ในการช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับเด็ก ๆ ได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะในคาร์ซีทของ Britax อย่างเทคโนโลยี Patented Britax Römer Pivot Link ISOFIX System ในคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่สามารถช่วยลดแรงกระทำที่เกิดขึ้นบริเวณคอของเด็ก ๆ ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุได้ รวมไปถึงเทคโนโลยี SecureGuard ในคาร์ซีทเด็กโตที่ถูกออกแบบมาให้มีการทำงานร่วมกับสายรัดนิรภัยแบบ 3 จุด เพื่อการช่วยปกป้องบริเวณหน้าท้องซึ่งเป็นบริเวณที่มีความบอบบางมากที่สุดของเด็ก ๆ เป็นต้น


โดย Britax คือ บริษัทผู้ผลิตคาร์ซีท (Car Seat)  จากเยอรมันที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง ECE R44 และ ECE R129 หรือ i-Size และระบบคาร์ซีท ISOFIX รายแรกของโลก อีกทั้งยังได้รางวัลการันตีความปลอดภัยอีกมากมายจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรมรถยนต์ และที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่า ลูกค้าทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถไว้วางใจในคุณภาพและความสบายของลูกน้อยในระหว่างการใช้งานคาร์ซีท คาร์ซีทเด็กแรกเกิด และ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britax ได้เป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้าถึง 24 เดือนในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที

 

   

 


สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ

Call center : 02 538 6700

Call center : 084 388 3887

Email : Info@BritaxThailand.com

Line: @britaxthailand

 

Visitors: 734,392